หน้าร้อนวันสงกรานต์ ขณะที่บางคนบางครอบครัว ต่างก็เตรียมตัววางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนตามสถานที่ต่างๆ หรือบ้างก็เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านต่างจังหวัด ร่วมสังสรรค์กับบรรดาพ่อแม่พี่น้องญาติสนิทมิตรสหาย แต่สำหรับครอบครัวของเราในวันสงกรานต์ปีนี้ การวางแผนท่องเที่ยวพักผ่อนก็คงจะหลีกหนีไม่พ้นทะเล ทะเลสิ่งที่ชอบสิ่งที่รัก
วันที่ 11เมษายน ก่อนประเพณีการเล่นน้ำในวันสงกรานต์จะเริ่มขึ้น ประมาณบ่ายสองโมงเราทั้งหมดก็เดินทางถึงบ้านน้ำเชี่ยว จังหวัดตราด เพื่อลงเรือ ส.สิรินดาของไต๋เดช ออกเดินทางไปทะเลเพื่อเสี่ยงโชคตกปลา ในบริเวณน่านน้ำแถบเกาะช้างจังหวัดตราด ตามที่ได้ตกลงนัดหมายจับจองเรือไว้ก่อนล่วงหน้าเป็นเดือน
แผนที่บริเวณหมู่เกาะช้าง จังหวัดตราด
บ้านน้ำเชี่ยว จังหวัดตราด สถานที่ลงเรือ
เรือตกปลา ส.สิรินดา ของไต๋เดช จอดลอยลำเที่ยบท่าพร้อมนำพาพวกเราออกทะเล
ช่วยกันขนสิ่งของสัมภาระลงเรือ
ไต๋เดชกำลังขับเรือ ส.สิรินดา ออกจากท่าเที่ยบเรือบ้านน้ำเชี่ยว
ส่วนพวกเราก็นั่งพักผ่อน ชมวิวตามริมสองฝั่งคลองบ้านน้ำเชี่ยว
คันเบ็ดส่วนหนึ่งของอุปกรณ์ ที่เตรียมพร้อมสำหรับในทริปนี้
เรือกำลังแล่นออกจากคลองน้ำเชี่ยว สองฝั่งคลองเป็นป่าชายเลอนุรักษ์ ยังมีความเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์
มีฝูงลิงแสมข้างริมคลองให้ชมกันเพลินๆ
เด็กๆชาวบ้านเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน
วิถีชีวิตของชาวบ้านน้ำเชี่ยว ส่วนมากมีอาชีพประมง
เรือแล่นผ่านหมู่บ้านปากคลองน้ำเชี่ยว
เมื่อเรือแล่นผ่านพ้นหมู่บ้านปากคลองน้ำเชี่ยว ก็มีกระโจมไฟตั้งอยู่บริเวณปากคลอง เป็นเครื่องหมายช่วยในการเดินเรือยามค่ำคืน
จากท่าเทียบเรือบ้านน้ำเชี่ยว แล่นมาถึงเกาะช้างใช้เวลาประมาณสามชั่วโมง
เมื่อเรือแล่นมาถึงเกาะช้างเป็นเวลาใกล้จะถึงตอนเย็น จุมโพ่ประจำเรือ(พ่อครัว)ก็จัดเตรียมอาหารมื้อเย็น ให้รับประทานแบบง่ายๆสบายๆ
เรือแล่นมาถึงหมายไดว์หมึกหน้าเกาะเหลายา ดวงตะวันก็จวนจะลับขอบฟ้า
พอไต๋เดชเริ่มเปิดไฟไดว์หมึก พร้อมกับเป็นเวลาพวกเรารับประทานอาหารมื้อเย็นเสร็จสิ้น การลงเบ็ดตกหมึกจึงเริ่มขึ้น
เวลาสามทุ่มไต๋เดชหรี่ไฟครั้งแรก เพื่อตรวจเช็คปริมาณของหมึก พวกเราก็แอบลุ้นเอาใจช่วย ว่าจะมีโชคสำหรับเหยื่อหมึกตกปลาในวันพรุ่งนี้หรือไม่
ปรากฎว่าเมื่อทำการหรี่ดับไฟ มองเห็นฝูงหมึกว่ายตามไฟขึ้นมาจากใต้ผืนน้ำเป็นฝูง ไต๋เดชจึงครอบหมึกแล้วคัดเลือก จับโยนลงใส่ห้องขังเหยื่อเป็น
หมึกที่คัดลงใส่ไว้ในห้องขังเหยื่อเป็น
ส่วนปลาเล็กปลาน้อยก็คัดใส่กระจาดไว้ สำหรับโปรยลงทะเลอ่อยเหยี่อล่อปลา ตอนที่ลงเบ็ดตกปลา
เมื่อหรี่ไฟครอบหมึกครั้งแรก ก็ทำให้พวกเราอุ่นใจเมื่อได้หมึกพอควรสำหรับใช้เป็นเหยื่อในวันพรุ้งนี้ แต่ไต๋เดชบอกจะไดว์หมึกต่อและครอบอีกครั้งในเวลาเที่ยงคืน
ช่วงเวลานี้เราจึงลงเบ็ดไว้ที่ท้ายเรือสองคัน มีปลาสากเหลืองตัวกำลังสวยมาหลงกลกินเบ็ด อาหารเช้าสำหรับในวันรุ่งขึ้นของพวกเรา จึงเป็นข้าวต้มปลาสาก
หลังจากหรี่ไฟครอบหมึกครั้งสุดท้ายตอนเที่ยงคืน เรือก็ย้ายมาจอดที่หมายบริเวณเกาะหวาย เมื่อลงเบ็ดเกี่ยวเหยื่อแช่ทิ้งไว้ทั้งคืนแล้วก็เข้านอน ตื่นเช้าขึ้นมาจึงพบว่ามีปลาสากป๊อกตัวเล็กๆมากินเบ็ด จนตายตัวแข็งเมื่อเก็บเบ็ดขึ้นมาดู
จอดเรือรับประทานอาหารเช้า และลงเบ็ดทิ้งไว้จนตะวันสายสำหรับหมายนี้ แต่ก็ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ไต๋เดชจึงชวนย้ายเรือแล่นมาเกือบสามชั่วโมง มาจอดลอยลำแถวๆหมายกองหินใต้น้ำ บริเวณด้านทิศตะวันตกของเกาะกูด
ที่หมายตกปลาบริเวณเกาะกูด จอดเรือลอยลำลงเบ็ดพักใหญ่ก็กินแห้วเหมือนเดิม ไต๋เดชต้องย้ายเรือถึงสามหมาย จนเรือเข้าจอดลงสมอในหมายที่สาม เมื่อกระแสของน้ำทะเลเริ่มไหลก็ได้เรื่อง
เสียงรอกดังกังวาลเรียกร้องหาเจ้าของ บ่งบอกถึงว่าโดนเจ้าตัวที่อยู่ใต้น้ำเล่นงานเข้าแล้ว ไม้นี้นายโจโจ้จึงได้ออกแรงยืดเส้นยืดสาย เป็นปลาอังเกยตัวสวย ขนาดกำลังเหมาะพอจาน
หลังจากนั้นนายเจก็ได้ออกแรงโยกคันเบ็ดเป็นคนต่อมา ปลาอังเกยเหมือนเดิม คิดว่าน่าจะฝูงเดียวกัน
เมื่อกระแสน้ำทะเลเริ่มขยับไหลก็เป็นนาทีทอง ฝูงปลาหลายหลากเข้ากินเบ็ดรอบลำเรืออย่างต่อเนื่อง ทั้งปลาเล็กปลาใหญ่สนุกสนานกันทั่วหน้า หลังจากนั่งกินแห้วรอคอยมานาน ตั้งแต่ช่วงเวลาของตอนเช้าๆ จนถึงช่วงเวลาบ่ายของวัน
สนุกกับการตกปลาเล็ก เย่อขึ้นมาจากทะเลเป็นคู่
ปลากินเบ็ดไม่หยุด เป็นช่วงนาทีทองเมื่อกระแสน้ำทะเลเริ่มไหล
ปลาเก๋าตัวนี้กินเบ็ดของนายโจโจ้
ด้านท้ายเรือไต๋เดชต้องช่วยออกแรงทำงาน
แต่คนที่รับช่วงต่อจากไม้นี้ของไต๋เดช กลับกลายเป็นนายเจ
ยิ้มแย้มแจ่มใสเมื่อปลากินเหยื่อ
นายโจโจ้ก็ยืนปักหลักสู้ไม่ถอย ด้านกาบข้างของเรือ
ผลงานตัวนี้ของนายโจโจ้ เป็นปลาตะคอง(ปลาแชกำ)
ปลาที่ตกได้ชุดเก่าก็เก็บเข้าห้องแช่เย็น ปลาชุดใหม่ก็ขึ้นจากใต้น้ำมาเพิ่มเติม
ฝูงปลาใต้น้ำเข้าถล่มเหยื่อหมึกเป็น ที่คันเบ็ดทั่วหน้ารอบลำเรือ ทุกคนสนุกสนานจนกระแสน้ำทะเลเริ่มจะหยุดไหล จึงได้ลามือจากคันเบ็ดนั่งพักเหนื่อย
จุมโพ่ก็เตรียมอาหารมื้อเย็นให้เติมพลัง อาหารมื้อนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นจากปลาเนื้อดี ที่พวกเราช่วยกันเย่อขึ้นมาจากใต้ทะเล
ปลาอังเกยทอดน้ำมัน เหลืองกอบนอกนุ่มในน่ารับประทาน น้ำปลาพริกมะนาวสักถ้วย อร่อยจนข้าวหมดหม้อไม่รู้ตัว
ส่วนหม้อนี้ต้มยำน้ำใสปลาสาก แชบอร่อยซดน้ำคล่องคอ
หลังจากอาหารมื้อเย็นก็นั่งพักเหนื่อยเอาแรง เตรียมรอคอยออกแรงตกปลาในรอบกลางคืน
กลางคืนไต๋เดชย้ายเรือมาที่หมายปะการังเทียม ทุกคนก็ช่วยกันทำงานจ่ายตลาดอีกครั้ง นั่งลงเบ็ดตกปลาซึ่งส่วนมากจะเป็นปลาชักฮื้อ ที่ว่ายขึ้นผิวน้ำไล่กินลูกปลาเล็กเหนือกองปะการังเทียม
ทั้งลงเบ็ดทั้งตีเหยื่อปลอมได้มาหลายตัว จนดึกดื่นทุกคนก็เข้านอนหลับพักผ่อน สำหรับเก็บแรงไว้ในเช้าวันรุ่งขึ้น
เวลาเช้าเมื่อแสงตะวันสาดส่องด้านทิศตะวันออกของขอบฟ้า นายเจก็ได้ออกแรงก่อนเวลาอาหารเช้าจะเริ่มขึ้น ไม้นี้ประเดิมรับรุ่งอรุณด้วยปลาโฉมงามตัวสวยสมกับชื่อของมัน
ปลาโฉมงามตัวแรกขึ้นเรือเสร็จ ลงเบ็ดยังไม่ทันจะได้หย่อนก้นลงนั่ง ก็โดนฉวยเบ็ดต่อเนื่องเป็นตัวที่สอง งานนี้นายโจโจ้จึงขอออกแรงเบ่งกล้ามโชว์
สองในสามตัวปลาโฉมงาม ที่ได้ขึ้นเรือตามมาติดๆกันในหมายนี้
เวลาเช้าหลังจากตกได้ปลาโฉมงามสามตัวอย่างต่อเนื่อง พวกเราทุกคนจึงลงความเห็นกันแล้วว่า พอเถอะพอแล้วสำหรับทริปนี้ เราตกปลาได้มากเกินความคาดหมาย ยิ่งโลภทำงกตกไปมาก ปลาที่จะขนกลับบ้าน ก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะรับประทานหมด
ข้อสำคัญช่องฟิตตู้เย็นที่บ้าน ก็เล็กไม่พอที่จะใส่ปลาแช่แข็ง ทุกคนจึงตกลงปรงใจแล้วหันไปร้องบอกกับไต๋เดชว่า "ไต๋...เราเข้าฝั่งกลับบ้านดีกว่า"
ในระหว่างที่เรือ ส.สิรินดา ของไต๋เดชกำลังแล่นเข้าฝั่งกลับบ้าน ก็เป็นธรรมเนียมที่จะนำปลาจากห้องแช่เย็น มาวางเรียงโชว์ผลงานของทริปนี้ ให้บรรดาเชียนมือเบ็ดได้บันทึกถ่ายภาพ ไว้เป็นที่ระลึกเป็นหลักฐาน
เวลาเที่ยงวัน เรือ ส.สิรินดาของไต๋เดชแห่งบ้านน้ำเชี่ยว ก็พาพวกเราเดินทางกลับมาถึงฝั่ง ด้วยความสวัสดิภาพและปลอดภัย
เป็นวันเวลาแห่งความสุข สามวันสองคืนที่กินอยู่หลับนอนบนเรือ พวกเราทุกคนสนุกสนานประทับใจแฮปปี้กันทั่วหน้า สำหรับทริปตกปลาทะเลตราด ยามหน้าร้อนของวันสงกรานต์ในปีนี้
เรื่องน่าสนใจแนะนำ : ทริปเล็กๆ ตามล่าหาตกปลาทรายแดง เกาะครามใหญ่
http://holidays-experience.blogspot.com/2010/07/fishing-in-pattaya.html
สุดยอดเลยครับ น้าวิจารณ์
ตอบลบ